ผู้ที่ป่วยเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือที่ส่วนใหญ่เรียกว่า โรคกระเพาะอาหาร คงรู้ตัวดีว่า เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกขึ้นมานั้นแสนทรมาน ทั้งยังอาจผสมโรงด้วยอาการจุกเสียดแน่น มีลมในกระเพาะ และคลื่นไส้อาเจียน เจ็บป่วยขนาดนี้คงต้องไปหาหมอสถานเดียว ทว่าได้ยามารับประทานก็ควรทำตามที่หมอสั่ง ถึงมื้ออาหารเมื่อไหร่ก็อย่าให้ขาดคลาดเคลื่อน
นอกจากรักษาด้วยยาและคำแนะนำตามแพทย์แล้ว ‘มุมสุขภาพ-กินดี’ เตรียมสูตรน้ำผัก แครอต-กะหล่ำปลี สรรพคุณรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และบำรุงลำไส้ มาเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง โดย ‘แครอต’ คือ แหล่งรวมเบต้าแคโรทีน ซัลเฟอร์ คลอรีน แคลเซียม และแมกนีเซียม จึงเป็นผักที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร กำจัดและต้านเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะที่ลำไส้ใหญ่ และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ส่วน ‘กะหล่ำปลีเขียว’ มีดีที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบเนื่องจากแผลในลำไส้ ในกระเพาะอาหาร ทั้งยังแก้ท้องผูก บรรเทาจุกเสียดแน่นท้อง เพราะผักชนิดนี้อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และกรดโฟลิก
เตรียมส่วนผสมตามสัดส่วนต่อไปนี้...
นอกจากรักษาด้วยยาและคำแนะนำตามแพทย์แล้ว ‘มุมสุขภาพ-กินดี’ เตรียมสูตรน้ำผัก แครอต-กะหล่ำปลี สรรพคุณรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และบำรุงลำไส้ มาเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง โดย ‘แครอต’ คือ แหล่งรวมเบต้าแคโรทีน ซัลเฟอร์ คลอรีน แคลเซียม และแมกนีเซียม จึงเป็นผักที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร กำจัดและต้านเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะที่ลำไส้ใหญ่ และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ส่วน ‘กะหล่ำปลีเขียว’ มีดีที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบเนื่องจากแผลในลำไส้ ในกระเพาะอาหาร ทั้งยังแก้ท้องผูก บรรเทาจุกเสียดแน่นท้อง เพราะผักชนิดนี้อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และกรดโฟลิก
เตรียมส่วนผสมตามสัดส่วนต่อไปนี้...
แครอต 2 ถ้วย
กะหล่ำปลีเขียว 1 ถ้วย
ขั้นตอนในการทำน้ำผัก เริ่มจากนำแครอตมาขูดเป็นเส้นเล็ก ส่วนกะหล่ำปลีเขียวให้หั่นพอหยาบ ได้แล้วนำไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ สามารถเติมน้ำแข็งเพิ่มความเย็นสดชื่นลงไปด้วยได้ ควรดื่มทันทีหลังจากทำเสร็จ.ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากทีมเดลินิวส์ออนไลน์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น